รีวิว Sweet Tooth
ซีรีส์จากทาง Netflix Original ที่ไม่ค่อยได้เห็นปะหัวโปรดักชันจากฝั่งคู่แข่งอย่าง Warner Bros. Television สักเท่าไหร่ ยิ่งว่าด้วยชื่อเจ้าของโปรเจ็กต์นี้เป็น โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) ที่พักหลังจะคุ้นตาจากผลงานหนังฝั่ง Disney เป็นส่วนใหญ่ด้วยแล้ว คงไม่ต้องพูดถึงว่าตัวซีรีส์ดัดแปลงมาจากคอมิกของค่าย DC อีก ก็คงเห็นความเป็นลูกผสมไม่แพ้พลอตของเรื่องที่ว่าด้วยมนุษย์ไฮบริดครึ่งคนครึ่งสัตว์เช่นนี้
ตัวคอมิกชื่อเดียวกันนี้ เป็นผลงานของ เจฟ เลอไมร์ (Jeff Lemire) นักเขียนหนุ่มชาวแคนาดาที่เริ่มเขียนในปี 2009 และจบลงในปี 2013 ก่อนจะมามีภาคต่อในชื่อ The Return เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยลงให้กับทางสำนักพิมพ์ Vertigo ของค่าย DC Comics ซึ่งด้วยพลอตเกี่ยวกับโลกหลังการล่มสลายจากเชื้อไวรัส และปรากฏการณ์ประหลาดที่เด็กเกิดใหม่กลายเป็นมนุษย์พันธุ์ผสม ก็สร้างจินตนาการที่น่าตื่นตาตื่นใจให้ผู้อ่านอย่างมาก ยิ่งอยู่ใต้ปีกของสำนักพิมพ์เวอร์ติโกที่มีกลุ่มเป้าหมายแนวดาร์กเข้ม ๆ แบบเด็กโตอ่านได้ จึงมีข้อถกเถียงเชิงปรัชญาและฉากความรุนแรงแบบผู้ใหญ่เลยอัดมาได้เต็มที่
งานนี้ไปโดนใจ ทีมดาวนีย์ (Team Downey) ที่ประกอบไปด้วยสองสามีภรรยา โรเบิร์ต และ ซูซาน ดาวนีย์ ปลุกปั้นจะทำซีรีส์ลงสตรีมมิ่งช่อง Hulu ตั้งแต่ปี 2018 ก่อนจะย้ายค่ายมาต่อเงินทุนผลิตเป็นซีรีส์ 8 ตอนได้จริงกับทาง เน็ตฟลิกซ์ในที่สุดเมื่อปีที่ผ่านมา
ด้วยความที่พลอตของเรื่องว่าด้วยโลกล่มสลายจากไวรัสในอเมริกา แต่เพื่อความปลอดภัยจากการถ่ายทำในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซีรีส์จึงเลือกไปถ่ายทำในประเทศนิวซีแลนด์ และผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นความสวยงามและอลังการของธรรมชาติที่เป็นฉากหลัง ที่กลายเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ทำให้ซีรีส์นี้ตื่นตาตื่นใจอยู่ตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกของเรื่องที่เหตุการณ์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในป่า
